สุพรรณี
ชาญประเสริฐ (2557:3-6) กล่าวว่า ความสำคัญของ Active Learning มีดังนี้
1.
ส่งเสริมให้เกิดกระบวนการคิดที่เป็นอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคิดวิเคราะห์
การแก้ปัญหาและ คิดสร้างสรรค์เนื่องจากผู้เรียนมีโอกาสในการฝึกปฏิบัติและพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูงมากขึ้น
ผู้สอนจะเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้เกิดทักษะเหล่านี้ผ่านกระบวนการกระตุ้นด้วยการใช้คำถาม
เพื่อให้ผู้เรียนเกิด การคิดเคราะห์
สังเคราะห์หรือการประยุกต์นำความรู้ไปใช้แก้ปัญหาในโลกความจริง
คั่นระหว่างการบรรยายหรือการมอบหมายงานเป็นรายบุคคล
งานกลุ่มย่อย หรืองานที่มอบหมายให้ทำร่วมกันทั้งชั้นเรียน เช่น การมอบหมายให้ทำร่วมกันทั้งชั้นเรียน
เช่น การมอบหมายให้แก้ปัญหาจากสถานการณ์หรือกรณีศึกษา นอกจากนี้การฝึกให้ผู้เรียนได้อภิปราย
โต้แย้งก็เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่ช่วยพัฒนาการคิดขั้นสูงและทักษะการให้เหตุผลอย่างมีตรรกะ
ซึ่งครูทำได้โดยการมอบหมายให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็นหรือทัศนคติได้หลายรูปแบบอาจจะเป็นการเขียนโดยใช้เวลาสั้นๆ
5- 10 นาที
หรือเปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นด้วยการจัดโต้วาทีระหว่างกลุ่มย่อยหรือแสดงทัศนคติร่วมกันทั้งชั้นเรียน
ซึ่งครูสามรถเลือกใช้ได้มากกว่า 1 เทคนิค
2.
ส่งเสริมให้เกิดการทำงานแบบร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดการเรียนรู้ที่ฝึกให้ผู้เรียนได้ทำงานร่วมกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าผู้เรียนผ่านการฝึกปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอและด้วยวิธีการที่ถูกต้อง
จะช่วยให้เกิดทักษะการทำงานแบบร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจาดเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ใช้เวลาช่วงสั้นๆในการพูดคุย
คิด และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกิจกรรมที่ทำให้เกิดการทำงานแบบร่วมมือ
เช่นกิจกรรมที่มีการอิปรายหรือลงมือปฏิบัติแบบกลุ่มย่อยหือกิจกรรมที่ทำให้ผู้เรียนจับคู่ร่วมกันคิดคำตอบหรือแก้ปัญหาในเวลาสั้นๆ
1-5 นาทีถ้า การบรรยายได้ใช้เทคนิคร่วมด้วยจะช่วยเพิ่มความจำความเข้าใจ
เพิ่มทักษะการสื่อสาร การสร้างความตระหนักและเห็นคุณค่าของเพื่อนร่วมงาน
แต่เทคนิคนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้มากขึ้นก็ต่อเมื่อมีการเฉลยคำตอบ
ร่วมการวิเคราะห์ แสดงเหตุผลสนับสนุนคำตอบที่ถูกต้องและให้เหตุผลด้วยว่าเพราะเหตุใดคำตอบหรือการแก้ปัญหาจึงไม่ถูกต้อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น